ส่วนมากผู้สูงอายุจะมีภาวะหูตึงตามวัยและมักจะฟังคําผิดความหมาย คุยเรื่องหนึ่งแต่เข้าใจเป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะเกิดช้าเกิดเร็วไม่เท่ากัน เนื่องจากร่างกายที่ชราและอวัยวะมีการเสื่อมถอยตามกาลเวลา แม้ว่าภาวะหูตึงจะไม่ได้เป็นอาการร้ายแรง แต่มักเป็นปัญหาในการสื่อสารและอาจต้องแก้ไขโดยการใช้เครื่องช่วยฟังช่วยให้ได้ยินดีมากขึ้น ซึ่งผู้สูงอายุมองว่าการมาโรงพยาบาลหลายครั้งและต้องทดสอบการได้ยินเป็นเรื่องที่ไม่อยากเจอ จึงไม่ยอมใช้เครื่องช่วยฟัง แต่การสูญเสียการได้ยินนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้ หากปล่อยไว้นานอาจกลับทำให้อาการหนักและสูญเสียการได้ยินถาวรได้ ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้ เนื่องจากสมองไม่ได้รับการกระตุ้นด้วยเสียง

          จากการศึกษาเมื่อเทียบกับคนปกติพบว่าผู้ที่สูญเสียการได้ยินมีอัตราการเสื่อมของสมองเร็วกว่า 30-40% เนื่องจากต้องใช้ความพยายามในการตั้งใจฟัง ทำให้เกิดสมองต้องทำงานหนักเพื่อดึงความจำระยะยาวมาใช้เพื่อให้เข้าใจในสิ่งที่ฟัง ทั้งนี้อาจมีภาวะอื่นเกิดขึ้นได้ เช่น ภาวะวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า โรคของเส้นเลือด เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ, เลือดออกในสมองจากไขมันในเลือดสูง และความดันโลหิตสูง เป็นต้น