ทำไมโรงพยาบาลต้องตรวจด้วย Tympanometry ไม่เพียงแต่เด็กเท่านั้นที่สามารถตรวจได้แต่ผู้สูงอายุก็สามารถตรวจได้เพื่อจะได้รู้สถานการณ์การได้ยินของคุณ!
ปัจจุบันการสูญเสียการได้ยินในเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะเด็กที่สูญเสียการได้ยินและไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมจะมีผลเสียต่อพัฒนาการด้านภาษา ด้านการเรียน ด้านจิตใจ และโอกาสทางสังคมเมื่อเด็กเหล่านี้โตเป็นผู้ใหญ่เลยอยากจะมาเล่าถึงการตรวจที่ช่วยบอกได้ว่าในทารกและเด็กกำลังมีปัญหาการได้ยิน คือการตรวจ Tympanometry และบางครั้งโรงพยาบาลก็จะตรวจ Tympanometry ในผู้สูงอายุเพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาการได้ยินมีสาเหตุมาจากหูชั้นกลางหรือไม่ นี่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้สูงอายุในการแก้ปัญหาการได้ยินเพื่อสื่อสารในใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น อีกทั้งหากต้องการใช้เครื่องช่วยฟังสำหรับผู้สูงอายุจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Tympanometry เป็นการทดสอบของการทำงานของหูชั้นกลางโดยใช้ความดัน ไม่ใช่การทดสอบการได้ยิน สาเหตุที่ตรวจเป็นเพราะผลที่ได้บ่งบอกได้ว่าอาจมีความผิดปกติของหูชั้นกลาง เช่น ภาวะมีน้ำเหลืองขังในช่องหูชั้นกลาง, ภาวะที่กระดูกหูแข็งติดกันไม่สามารถนำเสียงได้ซึ่งเกิดในผู้สูงอายุได้มากกว่า, การทำงานของท่อยูสเตเชียนซึ่งพบมากในเด็กเป็นเพราะท่อยูสเตเชียนยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดการอักเสบง่ายกว่าผู้ใหญ่
โดยผลตรวจ tympanogram ที่ความถี่ 226 Hz. จะใด้กราฟเป็นเส้นเดียวและมียอดแหลมเพียงหนึ่งยอด ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์ความผิดปกติได้
วิธีการอ่าน Tympanogram จากการทดสอบแก้วหู โดยแกนนอน (X) คือช่วงของความดันอากาศและแกนตั้ง (Y) คือการวัดแก้วหูและระบบหูชั้นกลางว่าเคลื่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศประมาณไหน เราลองมาดูผลตรวจที่แสดงต่อไปนี้กันครับ
ประเภท A เป็นผลตรวจที่แสดงถึงการทำงานของหูชั้นกลางตามปกติ
ประเภท As จะคล้ายกับชนิด A แต่มีจุดพีคที่ลดลง เป็นเพราะหูชั้นกลางขาดความยืดหยุ่นทำให้แก้วหูขยับได้ไม่ดี เช่น โรคหินปูนเกาะกระดูกหู (otosclerosis)
ประเภท AD มีจุดพีคสูงที่สุด เป็นเพราะหูชั้นกลางมีความยืดหยุ่นมาก ทำให้เยื่อแก้วหูขยับได้มากเกินไป และโรคที่กระดูกหูชั้นกลางไม่ต่อกัน (ossicular discontinuity)
ประเภท B จะไม่มีจุดพีคสูงสุดเลย เป็นเพราะหูชั้นกลางแน่น ทำให้ไม่ยืดหยุ่น มีภาวะหูชั้นกลางอักเสบชนิดมีน้ำซึมขัง (OME), ภาวะก้อนผิวหนังงอกอัดแน่นในหูชั้นกลาง (cholesteatoma)
ประเภท C มีจุดพีค แต่เลื่อนไปทางด้านแรงดันลบของแกน X สามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติของท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube dysfunction)
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น