หูอื้อ คืออาการที่มีการได้ยินลดลง บางคนอาจจะมีการได้ยินเสียงแหลมหรือเสียงหวีดในหู ผู้ที่มีหูอื้ออาจไม่จำเป็นต้องมีปัญหาทางการได้ยินเสมอไปแต่บางครั้งก็มาพร้อมกับระดับการสูญเสียการได้ยินที่แตกต่างกัน อาจเป็นผลข้างเคียงของยาหรือสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพ

สาเหตุทั่วไปของอาการหูอื้อ

1. สูญเสียการได้ยินเนื่องจากอายุที่มากขึ้น การได้ยินของมนุษย์จะเสื่อมลงตามอายุ โดยปกติจะเริ่มตั้งแต่อายุ 60 ปี ขึ้นไป การสูญเสียการได้ยินนี้อาจนำไปสู่อาการหูอื้อได้

2. การสัมผัสกับเสียงดังเป็นเวลานาน  การทำงานในสถานที่ที่ได้มีเสียงดัง เช่น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการขุด เจาะถนน อาจทำให้สูญเสียการได้ยินและเพิ่มโอกาสในการเกิดหูอื้อมากขึ้น อีกทั้งในปัจจุบันนี้เราจะสังเกตเห็นว่าเมื่อเราออกไปข้างนอกและใช้ขนส่งสาธารณะเราจะพบเห็นผู้คนมักจะใส่หูฟังขณะนั่งรถ หรือผู้ที่ชอบไปคอนเสิร์ตบ่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีปัญหาหูอื้อเช่นเดียวกัน

3.ขี้หูอุดตัน ขี้หู (cerumen) มีส่วนผสมของสารช่วยหล่อลื่นและต้านเชื้อแบคทีเรียที่ต่อมในหูหลั่งออกมา ร่วมกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และเส้นขน ร่างกายผลิตขี้หูออกมาเพื่อป้องกันหูของเรา  เวลาที่เราขยับกราม ขี้หูเดิมจะเคลื่อนตัวจากด้านในหูสู่ภายนอกและในที่สุดก็จะหลุดออกมาได้เอง นี่เป็นวิธีที่หูทําความสะอาดตัวเองและกําจัดขี้หูออกไป แต่เมื่อขี้หูมีมากเกินไปอาจทำให้อุดตัน ซึ่งส่งผลทำให้สูญเสียการได้ยินหรือรู้สึกไม่สบายในหูชั้นนอก ซึ่งอาจทำให้หูอื้อได้

4.การพักผ่อนไม่เพียงพอและความเครียด  การนอนไม่พอเป็นสาเหตุทั่วไปของหูอื้อมากกว่า 70% การพักผ่อนน้อยส่งผลให้การไหลเวียนของกระแสเลือดไม่ดี  โดยเฉพาะหูชั้นในนั้นต้องการเลือดมาเลี้ยงมาก หากขาดเลือดจะทำให้น้ำในหูชั้นในเสียสมดุลซึ่งน้ำในหูนี่เองที่เป็นตัวหล่อเลี้ยงเซลล์ประสาทที่ควบคุมระบบการทรงตัว  เมื่อน้ำในหูทั้งสองข้างไม่เท่ากันข้างหนึ่งทำงานมากอีกข้างหนึ่งทำงานน้อยจะเกิดความผิดปกติของระบบการทรงตัวในที่สุด อีกทั้งการรักษาอารมณ์ให้มีความสุขและการหาวิธีปลดปล่อยความเครียดสามารถบรรเทาอาการหูอื้อได้

      ข้างต้นเป็นเพียงสาเหตุทั่วไปของหูอื้อ โดยส่วนใหญ่ยังหาสาเหตุของอาการหูอื้อไม่ได้

      ดังนั้น เมื่อวิธีดังกล่าวข้างต้นใช้ไม่ได้ผลแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม

การแก้ไขเมื่อมีอาการหูอื้อ

ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีการรักษาอาการหูอื้อที่แน่ชัด การรักษาโดยวิธีที่มีประสิทธิภาพยังอยู่ในระหว่างการวิจัย ในบรรดาอาการหูอื้อทั้งหมด มีเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่สามารถระบุสาเหตุได้ การรักษาอาการหูอื้อนั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหูอื้อ แพทย์จะต้องทำการตรวจและวินิจฉัยสาเหตุของอาการหูอื้อให้แน่ชัดก่อนที่จะเริ่มทำการรักษา โดยวิธีการรักษา มีดังต่อไปนี้

• กำจัดขี้หู คือดูดขี้หูส่วนเกินที่อุดตันอยู่อาจช่วยรักษาอาการหูอื้อได้
• กลืนน้ำลาย เคี้ยวหมากฝรั่ง อ้าปากหาวกว้างๆและเอามือบีบจมูกทั้งสองข้างและหายใจออกทางจมูกแรงๆอาจช่วยแก้อาการหูอื้อที่เกิดจากแรงดันอากาศได้
• รักษาโรคที่ทำให้เกิดอาการหูอื้อ หากอาการหูอื้อของมีสาเหตุมาจากโรคหรือภาวะของโรคบางอย่าง การรักษาโรคที่เป็นต้นเหตุนั้นจะช่วยแก้อาการหูอื้อได้
• ถ้าเกิดมีภาวะหูอื้อจากผลข้างเคียงของการใช้ยา ผู้ป่วยอาจต้องเปลี่ยนตัวยา เพื่อลดผลข้างเคียงที่ทำให้หูอื้อได้
• ในกรณีที่อาการหูอื้อนั้นที่รุนแรงเกิดขึ้นได้จากการที่แก้วหูอักเสบหรือฉีดขาด จึงใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการหูอื้อที่เกิดขึ้น

      ดังนั้นสำหรับปัญหาหูอื้อเหล่านี้ที่สามารถวินิจฉัยได้ เราจำเป็นต้องแยกสาเหตุเท่านั้น เช่น การกำจัดขี้หูที่สะสมอยู่ การกำจัดน้ำในหูชั้นกลาง และการคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อสามารถบรรเทาปัญหาหูอื้อได้ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายหู เช่น การฟังเพลงเสียงดังที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อหู และการใช้นิ้วหรืออุปกรณ์อื่นแคะหู ซึ่งอาจทำให้ขี้หูถูกเข้าไปลึกขึ้น เกิดแผลที่ช่องหู หรือแก้วหูทะลุเพราะการป้องกันเหล่านี้มีความสำคัญในการช่วยให้การได้ยินเป็นปกติได้ในระยะยาว