เมื่อคุณมีปัญหาทางการได้ยิน เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุสามารถช่วยปรับปรุงการได้ยินและเพิ่มคุณภาพชีวิตของคุณได้ แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้เครื่องช่วยฟัง อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว หากคุณเป็นผู้ที่เริ่มใช้เครื่องช่วยฟังครั้งแรก มีวิธีที่จะช่วยให้คุณปรับตัวได้ง่ายขึ้น
นักโสตสัมผัสวิทยาที่ติดตั้งเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุให้คุณจะสอนวิธีใช้เครื่องช่วยฟัง เช่น วิธีใส่ ถอด ทำความสะอาด และเปลี่ยนแบตเตอรี่ นอกจากนี้ ยังควรแจ้งให้คุณทราบว่าควรสวมใส่เครื่องช่วยฟังวันละกี่ชั่วโมงในช่วงปรับตัว คุณควรทำตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างเต็มที่ หากไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร ให้ขอความช่วยเหลือจากนักโสตสัมผัสวิทยาจากร้านขายเครื่องช่วยฟังของคุณ
บางสิ่งที่อาจทำให้คุณอยากถอดเครื่องช่วยฟังออกหรือหยุดใช้งาน เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในช่วงวันและสัปดาห์แรกที่คุณกำลังปรับตัว คุณอาจสังเกตเห็นสิ่งต่อไปนี้
1. เครื่องช่วยฟังทำให้รู้สึกไม่สบาย
คุณอาจไม่ชอบวิธีที่เครื่องช่วยฟังวางอยู่ในหู (แต่มันไม่ควรทำให้รู้สึกเจ็บ ถ้ารู้สึกเจ็บให้แจ้งนักโสตสัมผัสวิทยาทันที) ผู้เชี่ยวชาญอาจแนะนำให้คุณเริ่มต้นใส่เครื่องช่วยฟังเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งในแต่ละวัน เพื่อให้คุณคุ้นเคยกับเครื่องช่วยฟัง
2. เสียงของคุณเองฟังดูดังเกินไป
นี่เรียกว่า “ผลปิดกั้น” (Occlusion Effect) เป็นอาการที่เสียงของตัวเองฟังดูดังเกินไปเมื่อใส่เครื่องช่วยฟัง หรืออุปกรณ์ในหูอื่นๆ เช่น หูฟังหรือที่อุดหู
ผลปิดกั้นเกิดขึ้นอย่างไร?
เมื่อคุณใส่เครื่องช่วยฟังหรืออุปกรณ์ที่ปิดกั้นช่องหูบางส่วน เสียงที่เกิดจากการพูดของคุณจะสะท้อนกลับภายในหูมากขึ้นแทนที่จะออกไปภายนอก ทำให้คุณรู้สึกว่าเสียงพูดของตัวเองดังกว่าปกติ ผู้ใช้เครื่องช่วยฟังหลายคนจะคุ้นเคยกับมันเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าสิ่งนี้รบกวนคุณมาก ให้ปรึกษานักโสตสัมผัสวิทยา พวกเขาอาจทำการปรับแต่งเพื่อช่วยลดความรบกวน
3. คุณได้ยินเสียงพื้นหลัง (Background Noise)
เสียงพื้นหลัง (Background Noise) คือ เสียงรบกวนที่ไม่ได้มาจากแหล่งเสียงที่ผู้ใช้ต้องการฟัง เช่น เสียงพูดคุยของคนอื่นในร้านอาหาร เสียงเครื่องปรับอากาศ หรือเสียงรถยนต์ในบริเวณถนนซึ่งเครื่องช่วยฟังอาจขยายเสียงเหล่านี้ไปพร้อมกับเสียงที่ผู้ใช้ต้องการฟัง เช่น เสียงของคนที่กำลังสนทนาด้วย อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจหรือฟังเสียงที่ต้องการได้ยินได้ยากขึ้น เครื่องช่วยฟังสามารถรับเสียงรบกวนที่คุณไม่ต้องการได้ เช่นเดียวกับเสียงที่คุณต้องการได้ยิน แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติ แต่หากเสียงดังเกินไปหรือรบกวนคุณ ควรปรึกษานักโสตสัมผัสวิทยา
4. คุณได้ยินเสียงหวีด (Whistling) หรือเสียงสะท้อน (Feedback)
เป็นเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อเครื่องช่วยฟังรับเสียงที่มันขยายแล้วนำไปขยายซ้ำอีกครั้ง ทำให้เกิดการสะท้อนวนซ้ำ จนกลายเป็นเสียงที่คล้ายเสียงหวีดหรือเสียงหอน (บางครั้งเรียกว่า “เสียงแหลม”) สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อเครื่องช่วยฟังไม่พอดีกับหู หรือหูของคุณมีขี้หูหรือน้ำขังอยู่ ถ้าคุณได้ยินเสียงสะท้อน ควรติดต่อกับนักโสตสัมผัสวิทยาโดยเร็ว
5. มีเสียงฮัมเมื่อใช้โทรศัพท์ (Humming)
เสียงฮัมคืออะไร?
เสียงฮัม (Humming) เป็นเสียงต่ำๆ ที่คงที่ คล้ายกับเสียงก้องของเครื่องจักรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อใช้เครื่องช่วยฟังร่วมกับโทรศัพท์ดิจิตอลบางรุ่นเสียงนี้อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกรำคาญหรือทำให้การฟังเสียงสนทนาจากโทรศัพท์ไม่ชัดเจน
โทรศัพท์ดิจิตอลบางเครื่องอาจรบกวนความถี่วิทยุ ทำให้เกิดเสียงฮัมในเครื่องช่วยฟัง ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัญหานี้พบได้น้อยลง แต่ทางที่ดีที่สุดคือการนำโทรศัพท์ไปทดสอบพร้อมกับเครื่องช่วยฟังเมื่อทำการติดตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองอุปกรณ์จะไม่รบกวนกัน
สมองที่ขาดการกระตุ้นจากเสียงเป็นเวลานานจะต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับตัว การค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับเครื่องช่วยฟังจะช่วยให้คุณฟังได้สะดวกมากขึ้น
ขั้นตอนที่ 1 คุ้นเคยกับการใช้เครื่องช่วยฟังในสภาพแวดล้อมที่เงียบ
ในช่วงแรก ควรฝึกใส่เครื่องช่วยฟังให้คล่อง เรียนรู้วิธีการใส่และถอดเครื่องให้ถูกต้อง จำความรู้สึกเมื่อใส่ให้สบาย เพื่อการฟังที่มีประสิทธิภาพ
เปิด “สวิตช์” ที่จะช่วยให้คุณได้ยินอีกครั้ง เราจะตั้งค่าเครื่องช่วยฟังให้อยู่ในระดับเสียงที่คุณรู้สึกสบาย ในขั้นนี้ คุณจะเริ่มเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับเสียงรอบตัว
กลยุทธ์การสื่อสาร
ในช่วงนี้ ควรเน้นการสื่อสารแบบตัวต่อตัว หากจำเป็น ให้คู่สนทนาพูดช้าลงและใกล้เข้ามา นอกจากนี้ควรฝึกฟังเสียงของตนเองและปรับระดับเสียงในการพูด
ขั้นตอนที่ 2 สื่อสารกับหลายคนในสภาพแวดล้อมที่เงียบ ใช้โทรศัพท์ และชมรายการทีวี
คุณเริ่มคุ้นเคยกับลักษณะเสียงของเครื่องช่วยฟังแล้ว ในช่วงนี้ให้ฝึกสนทนากับหลายๆ คน ใช้โทรศัพท์ และฟังรายการทีวี
กลยุทธ์การสื่อสาร
เมื่อสนทนากับหลายคนในที่เงียบ ควรรักษาระดับเสียงที่เหมาะสม พูดช้าๆ และหันหน้ามาทางผู้พูด ควรใช้ฟังก์ชันของเครื่องช่วยฟังเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการฟัง
ขั้นตอนที่ 3 สนทนาแบบตัวต่อตัวในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนระดับกลางถึงต่ำ
คุณเริ่มคุ้นเคยกับเสียงจากเครื่องช่วยฟังมากขึ้น และรู้วิธีการใช้งานแล้ว ในช่วงนี้ควรเริ่มใช้นอกบ้าน ฟังเสียงรถ เสียงลม หรือเสียงในร้านค้า
กลยุทธ์การสื่อสาร
ฝึกการสนทนาในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังขึ้น เช่นบนถนนหรือร้านค้า โดยเริ่มจากการพูดคุยกับ 1-2 คน
ขั้นตอนที่ 4 สื่อสารในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและมีเสียงรบกวนสูง
คุณสามารถใช้งานเครื่องช่วยฟังได้อย่างเต็มที่และปรับตัวเข้ากับเสียงรอบตัวได้มากขึ้นแล้ว
กลยุทธ์การสื่อสาร
ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก เมื่อพูดคุยกับคน 1-3 คน ควรรักษาระยะห่างจากผู้พูดและให้พูดช้าๆ หัวข้อสนทนาควรเรียบง่าย เพื่อให้เทคโนโลยีของเครื่องช่วยฟังช่วยเพิ่มคุณภาพการฟังได้อย่างเต็มที่การปรับตัวเข้ากับเครื่องช่วยฟังอาจต้องใช้เวลา แต่ด้วยการฝึกฝนและการใช้งานที่สม่ำเสมอ คุณจะสามารถใช้งานเครื่องช่วยฟังได้อย่างเต็มที่และเพิ่มคุณภาพการฟังในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุได้พัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด โดยมีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัย เช่น การปรับแต่งระยะไกล และการปรับเสียงอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ไม่สะดวกหรือไม่มีเวลามาเข้ารับบริการที่ศูนย์ ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น การใช้เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุสามารถปรับปรุงการได้ยินและคุณภาพชีวิตได้ แต่ผู้เริ่มต้นอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของนักโสตสัมผัสวิทยาในการใช้เครื่องช่วยฟัง เช่น วิธีใส่ ถอด และดูแลรักษา ปัญหาที่อาจพบได้ เช่น ความไม่สบายในการสวมใส่ เสียงของตัวเองดังเกินไป หรือเสียงรบกวนอื่นๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับแต่ง การปรับตัวให้คุ้นเคยกับเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุต้องใช้เวลา เริ่มจากใช้ในสภาพแวดล้อมที่เงียบแล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความซับซ้อน เครื่องช่วยฟังสมัยใหม่มีฟีเจอร์ล้ำสมัยที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นและปรับตัวได้ง่ายขึ้นในทุกสถานการณ์
3 วิธีในการเลือกเครื่องช่วยฟัง เครื่องช่วยฟังที่ราคาแพงมีคุณสมบัติมากมาย แต่เครื่องช่วยฟังราคาแพงอาจไม่เหมาะกับคุณ!
ทำไมราคาเครื่องช่วยฟังแต่ละรุ่นจึงแตกต่างกัน ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาสูงขึ้นคือ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา รวมถึงความสามารถของเครื่องช่วยฟัง
ปัจจุบันพบว่าผู้สูงอายุมีปัญหาทางด้านหัวตึงประสาทหูเสื่อมมากถึงร้อยละ 80 ของผู้สูงอายุทั้งหมด เริ่มตั้งแต่อายุ 60 – 80 ปี โดยจะพบปัญหาประสาทหูเสื่อม
Head Office 3,5 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
เปิดทำการวันจันทร์-วันเสาร์ 09:00-18:00 น.
สำรองคิวล่วงหน้าหากต้องการมาในวันอาทิตย์
copyright © digibionic 2023 all rights reserved
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า