หากคุณปล่อยให้แบตเตอรี่หมดบ่อย ๆ อาจทำให้แรงดันไฟฟ้าต่ำเกินไป ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ทำให้เครื่องช่วยฟังแบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น! เนื่องจากในปัจจุบันฟังก์ชันของเครื่องช่วยฟังมีหลากหลายมากขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่สามารถชาร์จไฟได้ก็แพร่หลายมากขึ้น คุณควรเลือกแบบไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด? ลองพิจารณาคำถามเหล่านี้เพื่อช่วยในการเลือกเครื่องช่วยฟัง

1. ผู้ที่สูญเสียการได้ยินมีความสามารถในการใช้มือที่คล่องแคล่วหรือไม่ เนื่องจากเครื่องช่วยฟังมีขนาดเล็ก เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ของเครื่องช่วยฟัง ดังนั้นหากผู้ใช้งานไม่คล่องแคล่วในการใช้มือ การเปลี่ยนแบตเตอรี่อาจจะลำบาก ควรเลือกใช้แบบชาร์จไฟหรือแบบที่มีฟังก์ชันการชาร์จพกพา
2. ผู้ที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลาหรือทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ นอกจากที่ชาร์จที่วางอยู่บนโต๊ะ ตอนนี้ยังมีเครื่องช่วยฟังที่มาพร้อมกับกล่องชาร์จพกพาอีกด้วย สะดวกมากสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยหรือต้องทำงานนอกสถานที่

การรับประกันและบริการหลังการขายของเครื่องช่วยฟังนั้นสำคัญมาก

นอกจากความต้องการในการชาร์จแบตเตอรี่แล้วคุณควรตรวจการได้ยินอย่างละเอียด โดยผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบและเลือกเครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมตามสภาพการได้ยินที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล ดังนั้นคุณควรไปที่ศูนย์เครื่องช่วยฟังเพื่อทดลองฟังเสียงจากเครื่องช่วยฟังแต่ละแบบ เพื่อหาแบบที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุด

ทั้งนี้เครื่องช่วยฟังก็ถือเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง จึงจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการรับประกันและการบริการหลังการขาย ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องช่วยฟัง คุณควรตรวจสอบว่าหากมีปัญหาเกิดขึ้น สามารถได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์บริการได้หรือไม่

หากคุณสนใจ สามารถเยี่ยมชมสาขาของ Digibionic ทุกสาขาในกรุงเทพ ที่มีบริการทดสอบการได้ยินฟรีและให้คำปรึกษาฟรี